ใครออกเดทกับ พระเจ้าหลุยส์ที่ 15 แห่งฝรั่งเศส?
Louise-Jeanne Tiercelin de La Colleterie วันที่ พระเจ้าหลุยส์ที่ 15 แห่งฝรั่งเศส จาก ? ถึง ?. ช่องว่างอายุ 36 ปี 10 เดือน 11 วัน.
Marie Anne de Mailly วันที่ พระเจ้าหลุยส์ที่ 15 แห่งฝรั่งเศส จาก ? ถึง ?. ช่องว่างอายุ 7 ปี 7 เดือน 20 วัน.
Madame de Pompadour วันที่ พระเจ้าหลุยส์ที่ 15 แห่งฝรั่งเศส จาก ? ถึง ?. ช่องว่างอายุ 11 ปี 10 เดือน 14 วัน.
Lucie Madeleine d'Estaing วันที่ พระเจ้าหลุยส์ที่ 15 แห่งฝรั่งเศส จาก ? ถึง ?. ช่องว่างอายุ 33 ปี 2 เดือน 25 วัน.
Françoise de Châlus วันที่ พระเจ้าหลุยส์ที่ 15 แห่งฝรั่งเศส จาก ? ถึง ?. ช่องว่างอายุ 24 ปี 0 เดือน 9 วัน.
Marie Anne de Coislin วันที่ พระเจ้าหลุยส์ที่ 15 แห่งฝรั่งเศส จาก ? ถึง ?. ช่องว่างอายุ 22 ปี 7 เดือน 2 วัน.
Irène du Buisson de Longpré วันที่ พระเจ้าหลุยส์ที่ 15 แห่งฝรั่งเศส จาก ? ถึง ?.
Marie Thérèse Françoise Boisselet วันที่ พระเจ้าหลุยส์ที่ 15 แห่งฝรั่งเศส จาก ? ถึง ?.
Louise Julie de Mailly วันที่ พระเจ้าหลุยส์ที่ 15 แห่งฝรั่งเศส จาก ? ถึง ?. ช่องว่างอายุ 0 ปี 1 เดือน 1 วัน.
Diane Adélaïde de Mailly วันที่ พระเจ้าหลุยส์ที่ 15 แห่งฝรั่งเศส จาก ? ถึง ?. ช่องว่างอายุ 4 ปี 0 เดือน 14 วัน.
Marguerite-Catherine Haynault วันที่ พระเจ้าหลุยส์ที่ 15 แห่งฝรั่งเศส จาก ? ถึง ?. ช่องว่างอายุ 26 ปี 6 เดือน 27 วัน.
Pauline Félicité de Mailly วันที่ พระเจ้าหลุยส์ที่ 15 แห่งฝรั่งเศส จาก ? ถึง ?.
Catherine Éléonore Bénard วันที่ พระเจ้าหลุยส์ที่ 15 แห่งฝรั่งเศส จาก ? ถึง ?.
Marie-Louise O'Murphy วันที่ พระเจ้าหลุยส์ที่ 15 แห่งฝรั่งเศส จาก ถึง . ช่องว่างอายุ 27 ปี 8 เดือน 6 วัน.
Anne Couppier de Romans วันที่ พระเจ้าหลุยส์ที่ 15 แห่งฝรั่งเศส จาก ถึง . ช่องว่างอายุ 27 ปี 3 เดือน 17 วัน.
Madame du Barry วันที่ พระเจ้าหลุยส์ที่ 15 แห่งฝรั่งเศส จาก ถึง . ช่องว่างอายุ 33 ปี 6 เดือน 4 วัน.
พระเจ้าหลุยส์ที่ 15 แห่งฝรั่งเศส

พระเจ้าหลุยส์ที่ 15 (ฝรั่งเศส: Louis XV de France; 15 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1710 – 10 พฤษภาคม ค.ศ. 1774) หรือ พระปิยราช (ฝรั่งเศส: le Bien-Aimé) เป็นพระมหากษัตริย์แห่งฝรั่งเศส ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1715 จนกระทั่งสวรรคต พระองค์สืบราชสมบัติต่อจากพระราชปัยกาคือ พระเจ้าหลุยส์ที่ 14 เมื่อตอนพระชนมายุ 5 ขวบจนกระทั่งทรงเจริญพระชนมายุครบ 13 พรรษาในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1723 อาณาจักรจึงถูกปกครองโดยฟีลิปที่ 2 ดยุกแห่งออร์เลอ็องและพระคาร์ดินัลแฟลรีเป็นมุขมนตรีแห่งรัฐจนถึงปี 1743 ซึ่งขณะนั้นพระมหากษัตริย์เข้าควบคุมอาณาจักรแต่เพียงผู้เดียว
ทรงขึ้นครองราชย์เมื่อยังทรงพระเยาว์ การบริหารราชการในระยะแรกอยู่ในความรับผิดชอบของอ็องเดร แร์กึล เดอ แฟลรี เมื่อเจริญพระชันษาขึ้นก็ทรงเอาพระทัยในการบริหารประเทศ แต่ทรงพยายามรักษาความยิ่งใหญ่ของฝรั่งเศสไว้เช่นสมัยพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ด้วยการทำสงครามกับเพื่อนบ้านหลายครั้งแต่ ทำให้สิ้นเปลืองงบประมาณไปเป็นจำนวนมาก ภายหลังทรงเริ่มละทิ้งราชการไปสนพระทัยในวิทยาศาสตร์และสนทนากับปัญญาชน รวมถึงทรงมีสัมพันธ์กับสตรีสูงศักดิ์หลายคน ถือว่าสถาบันกษัตริย์ของฝรั่งเศสเริ่มเสื่อมความนิยมและเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์มากขึ้น การบริหารประเทศไร้ประสิทธิภาพจนนำไปสู่วิกฤตการณ์ในรัชกาลต่อมา
อ่านเพิ่มเติม...Louise-Jeanne Tiercelin de La Colleterie
พระเจ้าหลุยส์ที่ 15 แห่งฝรั่งเศส

Marie Anne de Mailly

พระเจ้าหลุยส์ที่ 15 แห่งฝรั่งเศส

Madame de Pompadour

ฌานน์ อ็องตัวแน็ต ปัวซง มาร์กีซ เดอ ปงปาดูร์ (ฝรั่งเศส: Jeanne Antoinette Poisson, Marquise de Pompadour) หรือรู้จักกันในชื่อ มาดาม เดอ ปงปาดูร์ (ฝรั่งเศส: Madame de Pompadour; 29 ธันวาคม ค.ศ. 1721 – 15 เมษายน ค.ศ. 1764) เป็นสมาชิกในราชสำนักฝรั่งเศส โดยดำรงตำแหน่งพระสนมเอกของพระเจ้าหลุยส์ที่ 15 แห่งฝรั่งเศสตั้งแต่ ค.ศ. 1745 ถึง 1751 และยังคงมีอิทธิพลในฐานะคนโปรดในราชสำนักจนกระทั่งเสียชีวิต
ปงปาดูร์รับผิดชอบในด้านพระราชกรณียกิจและเป็นผู้ช่วยและที่ปรึกษาที่มีคุณค่า แม้ว่าเธอจะมีสุขภาพไม่ดีและมีศัตรูทางการเมืองมากมาย เธอรักษาตำแหน่งขุนนางของตัวเธอและญาติ และสร้างเครือข่ายของผู้จ้างและผู้สนับสนุน เธอระมัดระวังเป็นพิเศษที่จะไม่สร้างความบาดหมางแก่มารี เลชชินสกา พระราชินีผู้มีชื่อเสียง ณ วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 1756 มาร์กีซ เดอ ปงปาดูร์ได้รับการแต่งตั้งเป็นนางสนองพระโอษฐ์คนที่ 13 หลังจากพระราชินี ซึ่งถือว่ามีเกียรติที่สุดในราชสำนัก ซึ่งทำให้เธอได้รับเกียรติ
ปงปาดูร์เป็นผู้อุปถัมภ์คนหลักในด้านสถาปัตยกรรมและมัณฑนศิลป์ โดยเฉพาะเครื่องถ้วยเปลือกไข่ เธอเป็นผู้อุปถัมภ์นักปรัชญาในยุคเรืองปัญญา รวมถึงวอลแตร์
นักวิจารณ์ที่เป็นปฏิปักษ์ในเวลานั้นส่วนใหญ่มักจะโจมตีเธอว่าเป็นผู้มีอิทธิพลทางการเมืองที่ชั่วร้าย แต่บรรดานักประวัติศาสตร์กลับสนับสนุนเธอมากกว่า โดยเน้นย้ำถึงความสำเร็จของเธอในฐานะผู้อุปถัมภ์ศิลปะและผู้สนับสนุนความภาคภูมิใจของชาวฝรั่งเศส นักประวัติศาสตร์สมัยใหม่ระบุว่า นักวิจารณ์ปงปาดูร์นั้นได้รับแรงขับเคลื่อนจากความกลัวต่อการล้มล้างลำดับชั้นที่มีอยู่ ซึ่งปงปาดูร์เป็นตัวแทนของอำนาจและอิทธิพลในฐานะสตรีที่ไม่ได้เกิดในระบอบขุนนาง
อ่านเพิ่มเติม...พระเจ้าหลุยส์ที่ 15 แห่งฝรั่งเศส

Lucie Madeleine d'Estaing
พระเจ้าหลุยส์ที่ 15 แห่งฝรั่งเศส

Françoise de Châlus

พระเจ้าหลุยส์ที่ 15 แห่งฝรั่งเศส

Marie Anne de Coislin
Marie Anne de Coislin (1732-1817), was a French aristocrat, known as the mistress to Louis XV of France in 1755. She was the king's Petite maîtresse (unofficial mistress), not his Maîtresse-en-titre (official mistress).
She was the daughter of the marquis Louis de Mailly (1696-1767) and the lady-in-waiting Anne Françoise Elisabeth Arbaleste de Melun and married in 1750 to the duke Charles Georges René du Cambout de Coislin (d. 1771), but they separated early on and she moved back with her parents.
In 1755, Louis François, Prince of Conti launched her as his candidate to replace Madame de Pompadour as official mistress of the king. She was the first serious candidate to be put up against Madame de Pompadour since Charlotte Rosalie de Choiseul-Beaupré, and she was also to be the last. She did succeed to be the secret lover of the king, which attracted some attention at court. She became known as l'altière Vasthi. Ultimately, however, the plot failed, and she was ousted from court by Madame de Pompadour. After this, there was no more serious rival to replace Madame de Pompadour, and the king mainly settled with his unofficial lovers at the Parc-aux-Cerfs.
Marie Anne de Coislin had affairs with the Prince de Conti and the count de Coigny, and was claimed to have had affairs with Christian VI of Denmark, Gustav III of Sweden and Peter III of Russia. It is unknown if these rumours where true, but Christian VI and Gustav III did visit her during their visits to Paris, which attracted attention at the time.
She did not leave France during the French Revolution, but lived as a servant in Rouen, Brittany and Vendée during the Reign of Terror. After the fall of Robespierre, she resumed her former life and property. She remarried in 1793 to Louis-Marie duc de Mailly (d. 1795).
อ่านเพิ่มเติม...พระเจ้าหลุยส์ที่ 15 แห่งฝรั่งเศส

Irène du Buisson de Longpré
พระเจ้าหลุยส์ที่ 15 แห่งฝรั่งเศส

Marie Thérèse Françoise Boisselet
Marie Thérèse Françoise Boisselet (1731 – 1800) was a petite maîtresse of King Louis XV of France.
Boisselet was born to Pierre Sulpice Boisselet and Marie Thérèse Carouailles. Her father was an employee of the king's kitchen staff, with the title 'Contrôleur de la Bouche du Roi et chef du gobelet de Mme la Dauphine'. Marie Thérèse Françoise Boisselet was described as a beauty, and she agreed to become the lover of the king. The affair was not an official one; she was recruited to be a petite maîtresse (unofficial mistress) of the king in Parc-aux-Cerfs. She had one child with the king, Charles Louis Cadet de Gassicourt (1769–1821).
In 1771, she married the chemist Louis Claude Cadet de Gassicourt, who adopted her son. According to Paul Thiébault, Louis XV benefitted the career of Cadet de Gassicourt in the Royal Academy because of his marriage to his former lover.
อ่านเพิ่มเติม...พระเจ้าหลุยส์ที่ 15 แห่งฝรั่งเศส

Louise Julie de Mailly

พระเจ้าหลุยส์ที่ 15 แห่งฝรั่งเศส

Diane Adélaïde de Mailly

พระเจ้าหลุยส์ที่ 15 แห่งฝรั่งเศส

Marguerite-Catherine Haynault

พระเจ้าหลุยส์ที่ 15 แห่งฝรั่งเศส

Pauline Félicité de Mailly

พระเจ้าหลุยส์ที่ 15 แห่งฝรั่งเศส

Catherine Éléonore Bénard
Marie Catherine Éléonore Bénard (Catherine Éléonore Bernard; 1740 – 23 February 1769) was a French lady-in-waiting and alleged petite maîtresse to King Louis XV of France in 1768-69.
อ่านเพิ่มเติม...พระเจ้าหลุยส์ที่ 15 แห่งฝรั่งเศส

Marie-Louise O'Murphy

พระเจ้าหลุยส์ที่ 15 แห่งฝรั่งเศส

Anne Couppier de Romans

พระเจ้าหลุยส์ที่ 15 แห่งฝรั่งเศส

Madame du Barry

ฌานน์ เบกู (ฝรั่งเศส: Jeanne Bécu) หรือที่นิยมเรียกว่า มาดาม ดูว์ บารี (Madame du Barry)เป็นสนมเอกคนสุดท้ายของพระเจ้าหลุยส์ที่ 15 แห่งฝรั่งเศส และเป็นเหยื่อในการปฏิวัติฝรั่งเศสผู้ถูกประหารชีวิตด้วยกิโยตีน
ก่อนเข้าสู่ราชสำนักฝรั่งเศส นางสาวเบกูมีชื่อเสียงในฐานะโสเภณีผู้มีโฉมงดงาม ลูกค้าของนางล้วนเป็นคหบดีและข้าราชการชั้นสูงมากมาย ต่อมาในปี 1768 นางถูกพาตัวไปเข้าเฝ้าพระเจ้าหลุยส์ที่ 15 ที่พระราชวังแวร์ซาย และได้รับความสนพระทัยเป็นพิเศษ พระเจ้าหลุยส์ต้องการรับนางเข้าราชสำนัก แต่เนื่องด้วยนางมีฐานะเป็นสามัญชน มิใช่ขุนนาง ทางราชสำนักจึงจัดแจงให้นางสมรสกับเคานต์แห่งบารี เพื่อให้นางได้ยศตามสามีเป็นเคานเตสแห่งบารี
หลังนางกลายเป็นขุนนาง ก็เข้าถวายตัวเป็นพระสนมในพระเจ้าหลุยส์ที่ 15 ในปี 1769 ตั้งแต่อายุยี่สิบหกปี และกลายเป็นเป็นพระสนมคนโปรดที่สุด ถัดจากจากมาดาม เดอ ปงปาดูร์ ที่เสียชีวิตไปก่อนหน้า
หลังพระเจ้าหลุยส์ที่ 15 สวรรคตในปี 1774 มาดามก็ถูกสั่งเนรเทศโดยพระนางมารี อ็องตัวแน็ต ให้ไปอยู่สำนักแม่ชีในชานเมืองปารีส มาดามอยู่ที่นี่ได้สามปีก็ได้รับอนุญาตให้ย้ายไปพำนักที่คฤหาสน์ลูเวซีแยนในจังหวัดอีฟว์ลีน ซึ่งเคยได้รับพระราชทานจากพระเจ้าหลุยส์ผู้ล่วงลับ หลายปีต่อมา นางก็มีคนรักใหม่คือจอมพลดยุกแห่งบรีซัก
แต่แล้วในช่วงการปฏิวัติฝรั่งเศส ดยุกแห่งบรีซักถูกรุมฆ่าโดยฝูงชนกลุ่มปฏิวัติในกรุงปารีส ในคืนดังกล่าว นางถูกจับกุมและกล่าวหาว่าให้การสนับสนุนทางการเงินต่อฝ่ายตรงข้าม และถูกตัดสินประหารชีวิตด้วยกิโยตีนในปี 1793
อ่านเพิ่มเติม...