ใครออกเดทกับ Joe Alwyn?

  • เทย์เลอร์ สวิฟต์ วันที่ Joe Alwyn จาก ถึง . ช่องว่างอายุ 1 ปี 2 เดือน 8 วัน.

Joe Alwyn

Joe Alwyn

Joseph Matthew Alwyn (born 21 February 1991) is an English actor. Alwyn made his feature film debut as the titular character in Ang Lee's 2016 war drama Billy Lynn's Long Halftime Walk and has since played roles in films such as The Favourite (2018), Boy Erased (2018), Mary Queen of Scots (2018), Harriet (2019), Catherine Called Birdy (2022), and The Brutalist (2024), as well as the BBC and Hulu drama series Conversations with Friends (2022).

Born in Kent and raised in North London, Alwyn developed an interest in acting during his teenage years. He acted in student productions at Edinburgh Festival Fringe, and obtained BA degrees in English literature and drama, and acting, from the University of Bristol (2012), and the Royal Central School of Speech and Drama (2015), respectively.

Alwyn worked with American singer-songwriter Taylor Swift on ten of her songs released from 2020 to 2022, including "Exile" and "Betty" from Swift's eighth studio album, Folklore, which won the Album of the Year at the 63rd Annual Grammy Awards. He won a Trophée Chopard at the 2018 Cannes Film Festival and appeared on the 2022 Time 100 Next list of rising stars.

อ่านเพิ่มเติม...
 

เทย์เลอร์ สวิฟต์

เทย์เลอร์ สวิฟต์

เทย์เลอร์ แอลิสัน สวิฟต์ (อังกฤษ: Taylor Alison Swift; เกิด 13 ธันวาคม ค.ศ. 1989) เป็นนักร้องและนักแต่งเพลงชาวอเมริกัน เธอเป็นหนึ่งในศิลปินหญิงร่วมสมัยยอดนิยมที่เป็นที่รู้จักจากการแต่งเพลงเกี่ยวกับชีวิตส่วนตัวและเป็นที่สนใจของสื่ออย่างมาก สวิฟต์เกิดและเติบโตในเวสต์เรดิง รัฐเพนซิลเวเนีย เธอย้ายไปยังเมืองแนชวิลล์ รัฐเทนเนสซี ขณะอายุ 14 ปี เพื่อหางานทำเกี่ยวกับเพลงคันทรี เธอได้เซ็นสัญญากับบริษัทโซนี/เอทีวีมิวสิกพับบลิชชิง ใน ค.ศ. 2004 และเซ็นสัญญากับค่ายเพลงบิกแมชีนเรเคิดส์ ใน ค.ศ. 2005 และออกอัลบั้มแรกในชื่อเดียวกับตนเอง ใน ค.ศ. 2006

สวิฟต์ทำดนตรีคันทรีป็อปในอัลบั้มที่สองและสาม เฟียร์เลส (2008) และ สปีกนาว (2010) ความสำเร็จจากซิงเกิลในอัลบั้มที่สอง "เลิฟสตอรี" และ "ยูบีลองวิทมี" ในคลื่นวิทยุเพลงคันทรีและเพลงป็อปทำให้สวิฟต์เป็นศิลปินข้ามแนวเพลงที่โดดเด่น เธอยังได้ทดลองดนตรีแนวป็อป ร็อก และอิเล็กทรอนิกส์ในอัลบั้มที่สี่ เรด (2012) อัลบั้มทีห้า 1989 (2014) เปลี่ยนสถานะสวิฟต์จากศิลปินคันทรีเป็นป็อปสตาร์ โดยมีแรงสนับสนุนจากซิงเกิลอันดับหนึ่งบนบิลบอร์ดฮอต 100 ได้แก่ "เชกอิตออฟ" "แบลงก์สเปซ" และ "แบดบลัด" การที่สื่อให้ความสนใจในชีวิตส่วนตัวของเธอมากขึ้นบันดาลใจให้เกิดอัลบั้มที่หก เรพิวเทชัน (2017) ซึ่งดนตรีเปลี่ยนเป็นแนวเออร์เบินร่วมสมัย

หลังจากแยกทางกับค่ายบิกแมชีน แล้วเซ็นสัญญากับรีพับลิกเรเคิดส์ ใน ค.ศ. 2018 สวิฟต์ออกอัลบั้มที่เจ็ด เลิฟเวอร์ ใน ค.ศ. 2019 หลังจากประสบความสำเร็จในทศวรรษ 2010 เธอก้าวเข้าสู่ดนตรีแนวอินดีโฟล์กและออลเทอร์นาทิฟร็อกในอัลบั้มสองชุดที่ออกใน ค.ศ. 2020 คือ โฟล์กลอร์ และเอฟเวอร์มอร์ ซึ่งเนื้อเพลงได้รับแรงบันดาลใจจากการเก็บตัวในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้รับคำชมในเรื่องการเล่าเรื่องที่คล้ายกัน เพื่อให้ได้สิทธิ์การครอบครองกลับคืนมา หลังเกิดข้อพิพาทเกี่ยวกับงานต้นฉบับของสวิฟต์ เธอออกอัลบั้มเพลงที่บันทึกเสียงใหม่ออกมาสองชุดใน ค.ศ. 2021 ได้แก่ เฟียร์เลส (เทย์เลอร์เวอร์ชัน) และเรด (เทย์เลอร์เวอร์ชัน) ทั้งสองอัลบั้มได้รับคำชมในด้านดนตรีที่มีคุณภาพมากขึ้น และเสียงร้องที่พัฒนาขึ้นจากเดิม นอกจากดนตรี สวิฟต์ได้รับบทในภาพยนตร์ต่าง ๆ เช่น วาเลนไทน์เดย์ หวานฉ่ำ วันรักก้องโลก (2010) และแคตส์ (2019) เธอออกภาพยนตร์สารคดีอัตชีวประวัติเรื่องมิสอเมริกานา (2020) และภาพยนตร์มิวสิคัลที่เธอกำกับเอง ได้แก่ โฟล์กลอร์: เดอะลองพอนด์สตูดิโอเซสชันส์ (2020) ออลทูเวล: เดอะชอร์ตฟิล์ม (2021) และดิเอราส์ทัวร์ (2023) ภาพยนตร์คอนเสิร์ตที่ทำรายได้สูงที่สุด

สวิฟต์เป็นหนึ่งในศิลปินนักดนตรีที่ขายดีที่สุดตลอดกาล เธอขายอัลบั้มได้มากกว่า 400 ล้านชุดทั่วโลก เธอได้รับรางวัลแกรมมี 14 รางวัล (รวมรางวัลอัลบั้มแห่งปี 4 รางวัล) เอมมีอะวอดส์ 1 รางวัล รางวัลบิลบอร์ดมิวสิกอะวอดส์ 25 รางวัล รางวัลสมาคมเพลงคันทรี 12 รางวัล อเมริกันมิวสิกอะวอดส์ 40 รางวัล (ศิลปินที่ได้รับมากที่สุด) และได้รับการบันทึกในบันทึกสถิติโลกกินเนสส์ 49 รายการ เธออยู่ในรายชื่อ 100 นักแต่งเพลงยอดเยี่ยมตลอดกาล จัดโดยนิตยสารโรลลิงสโตน เป็นอันดับที่แปดในรายชื่อศิลปินยอดเยี่ยมตลอดกาล จัดอันดับโดยบิลบอร์ด และอยู่ในการจัดอันดับอีกมากมาย เช่น ไทม์ 100 และคนดัง 100 คนของฟอบส์ บิลบอร์ดแต่งตั้งให้สวิฟต์เป็นสตรีแห่งทศวรรษ 2010 และอเมริกันมิวสิกอะวอดส์แต่งตั้งให้เป็นศิลปินแห่งทศวรรษ 2010 สวิฟต์เป็นที่จดจำในฐานะผู้สนับสนุนสิทธิและอำนาจสตรีในอุตสาหกรรมดนตรี

อ่านเพิ่มเติม...