ใครออกเดทกับ Edith Forne?

Edith Forne

Edith Forne (d. after 1129), was an English noblewoman who was the concubine of King Henry I of England and the foundress of Osney Abbey near Oxford.

She was the daughter of Forn Sigulfson, Lord of Greystoke, Cumberland.

Edith had three children by King Henry:

  1. Robert FitzEdith, (1093–1172) who married Maud d'Avranches. They had one daughter, Maud, who married Renaud, Sire of Courtenay (son of Miles, Sire of Courtenay and Ermengarde of Nevers).
  2. William de Tracy (1097–1140).
  3. Adeliza FitzEdith who appears in charters with her brother, Robert.

In 1120, Henry caused Edith to marry Robert D'Oyly the younger, second son of Nigel D'Oyly. As a marriage portion, she was granted the Manor of Cleydon, Buckinghamshire. Robert and Edith had at least two children: Henry, buried at Osney in 1163, and Gilbert.

In 1129, Edith persuaded her husband to build the Church of St Mary, in the Isle of Osney, near Oxford Castle, for the use of Augustine Canons: this was to become Osney Abbey. She told him that she had dreamt of the chattering of magpies, interpreted by a chaplain as souls in Purgatory who needed a church founding to expiate their sins.

Edith was buried in Osney Abbey, in a religious habit, as John Leland describes upon seeing her tomb as it was on the eve of the Dissolution: ‘Ther lyeth an image of Edith, of stone, in th' abbite of a vowess, holding a hart in her right hand, on the north side of the high altaire’. The legendary dream of magpies was painted near the tomb.

อ่านเพิ่มเติม...
 

Henry I of England

Henry I of England

พระเจ้าเฮนรีที่ 1 แห่งอังกฤษ (อังกฤษ: Henry I of England) (ราว ค.ศ. 1068/ค.ศ. 1069 – 1 ธันวาคม ค.ศ. 1135) เป็นกษัตริย์แห่งอังกฤษและเป็นกษัตริย์องค์ที่ 3 ของราชวงศ์นอร์มันตั้งแต่ปี ค.ศ. 1100 จนกระทั่งสวรรคตในปี ค.ศ. 1135 พระองค์เป็นโอรสองค์ที่สี่ของพระเจ้าวิลเลียมที่ 1 แห่งอังกฤษหรือพระเจ้าวิลเลียมผู้พิชิต โดยพระองค์ได้รับการศึกษาภาษาละตินและศิลปศาสตร์ ในการสวรรคตของพระเจ้าวิลเลียมที่ 1 ในปี ค.ศ. 1087 พระเชษฐาของเจ้าชายเฮนรีสององค์คือรอเบิร์ตที่ 2 ดยุกแห่งนอร์มังดีและวิลเลียม รูฟัสสืบทอดดัชชีนอร์ม็องดีและอังกฤษตามลำดับ แต่เจ้าชายเฮนรีไม่ได้รับที่ดิน พระองค์ซื้อเคาน์ตีโคเทนตินทางตะวันตกของนอร์มังดีจากรอเบิร์ต แต่พระเชษฐาองค์นี้ถูกปลดเสียก่อนในปี ค.ศ. 1091 พระองค์ค่อย ๆ สร้างฐานอำนาจของพระองค์ขึ้นใหม่ในโคเทนตินและร่วมมือกับวิลเลียม รูฟัสหรือพระเจ้าวิลเลียมที่ 2 แห่งอังกฤษ ซึ่งเป็นพระเชษฐาอีกองค์หนึ่งต่อสู้กับรอเบิร์ต

พระองค์อยู่ในสถานที่ที่พระเชษฐาของพระองค์คือ พระเจ้าวิลเลียมที่ 2 สวรรคตอย่างกะทันหันเนื่องจากการถูกยิงด้วยธนูระหว่างการล่าสัตว์ในอุทยานหลวงในปี ค.ศ. 1100 และเนื่องจากพระเจ้าวิลเลียมที่ 2 สวรรคตโดยไม่มีรัชทายาท เจ้าชายเฮนรีจึงเข้ายึดราชบัลลังก์อังกฤษโดยให้คำมั่นในพิธีราชาภิเษกของพระองค์ว่าจะแก้ไขนโยบายที่ไม่เป็นที่นิยมของพระเจ้าวิลเลียมที่ 2 ให้ดีขึ้น พระองค์อภิเษกสมรสกับมาทิลดาแห่งสกอตแลนด์ และทั้งสองพระองค์มีพระราชบุตรที่เจริญพระชนม์ 2 พระองค์ได้แก่ จักรพรรดินีมาทิลดา และเจ้าชายวิลเลียม อเดลิน พระองค์มีพระราชบุตรนอกสมรสหลายคนจากพระสนมลับหลายคน เจ้าชายโรเบิร์ต พระเชษฐาของพระองค์เสด็จจากนอร์มังดีในปี ค.ศ. 1101 เพื่อโต้แย้งการปกครองอังกฤษของพระเจ้าเฮนรี การรบครั้งนี้จบลงด้วยการเจรจาข้อตกลงที่ยืนยันว่าพระเจ้าเฮนรีเป็นกษัตริย์ ความสงบสุขเกิดขึ้นได้ไม่นาน เมื่อพระเจ้าเฮนรีนำกองทัพบุกยึดครองดัชชีนอร์ม็องดีในปี ค.ศ. 1105 และ ค.ศ. 1106 ในที่สุดพระองค์ก็เอาชนะดยุคโรเบิร์ตได้อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาดในยุทธการที่แต็งเชอเบรย์พระเจ้าเฮนรีปลดดยุครอเบิร์ตและจำคุกตลอดพระชนม์ชีพ การปกครองนอร์ม็องดีของพระเจ้าเฮนรีถูกท้าทายโดยพระเจ้าหลุยส์ที่ 6 แห่งฝรั่งเศส เคานต์บอลด์วินที่ 7 แห่งแฟลนเดอร์ส และฟุลค์ที่ 5 แห่งอองฌู ผู้สนับสนุนการอ้างสิทธิ์ของวิลเลียม คลิโต พระโอรสของดยุคโรเบิร์ต และสนับสนุนการก่อกบฏครั้งใหญ่ในดัชชีระหว่างปี ค.ศ. 1116 ถึง ค.ศ. 1119 หลังจากชัยชนะของพระเจ้าเฮนรีในยุทธการที่เบรมิวเล พระองค์ได้ลงพระนามในข้อตกลงสันติภาพซึ่งตกลงกับพระเจ้าหลุยส์ที่ 6 ในปี ค.ศ. 1120

พระเจ้าเฮนรีถือได้ว่าเป็นกษัตริย์ที่เฉียบขาดและมีพระปรีชาสามารถ สามารถจัดการกับเหล่าบารอนในอังกฤษและนอร์มังดีได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในอังกฤษ พระองค์ใช้ระบบยุติธรรม รัฐบาลท้องถิ่น และการจัดเก็บภาษีของแองโกล-แซกซอนที่มีอยู่ แต่เสริมความแข็งแกร่งด้วยกรมสรรพากรและกรมราชทัณฑ์ ขณะที่นอร์มังดีถูกปกครองโดยระบบยุติธรรมและการจัดเก็บภาษีที่กำลังเจริญเติบโต ข้าราชการหลายคนภายใต้การปกครองของพระเจ้าเฮนรีเป็น "คนใหม่" ที่มีภูมิหลังที่คลุมเครือ มากกว่าจะมาจากครอบครัวที่มีฐานะสูงส่ง พระเจ้าเฮนรีสนับสนุนการปฏิรูปคณะสงฆ์ แต่พระองค์ก็เข้าไปพัวพันกับข้อพิพาทร้ายแรงในปี ค.ศ. 1101 กับอาร์ชบิชอปแอนเซล์มแห่งแคนเทอร์เบอรี ซึ่งจบลงด้วยการประนีประนอมในปี ค.ศ. 1105 พระองค์สนับสนุนการปฏิรูปคลูนีแอกและมีบทบาทสำคัญในการเลือกนักบวชอาวุโสในอังกฤษและนอร์มังดี

เจ้าชายวิลเลียม อาเดลิน พระราชโอรสโดยชอบธรรมเพียงพระองค์เดียวของพระเจ้าเฮนรีสวรรคตเนื่องจากจมน้ำในหายนะเรือสีขาวในปี ค.ศ. 1120 ทำให้การสืบราชบัลลังก์เกิดความสงสัย พระเจ้าเฮนรีอภิเษกสมรสกับพระมเหสีองค์ที่ 2 คือ อเดลีซาแห่งลูแว็ง โดยหวังว่าจะมีพระราชโอรสอีกองค์หนึ่ง แต่พวกเขาก็ไม่มีพระราชโอรส เพื่อตอบสนองต่อเรื่องนี้ พระองค์ประกาศว่าพระราชธิดาโดยชอบธรรมเพียงองค์เดียวของพระองค์คือมาทิลดาพระเชษฐภคินีของเจ้าชายวิลเลียมได้เป็นรัชทายาทและอภิเษกกับเจฟฟรีย์แห่งอองฌู ความสัมพันธ์ระหว่างพระเจ้าเฮนรีกับทั้งคู่เริ่มตึงเครียด และการต่อสู้ก็ปะทุขึ้นตามแนวชายแดนของอองฌู พระเจ้าเฮนรีสวรรคตเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม ค.ศ. 1135 หลังจากประชวรอยู่หนึ่งสัปดาห์ แม้จะมีแผนการสำหรับมาทิลดาแต่พระเจ้าเฮนรีก็ถูกสืบทอดราชบัลลังก์อังกฤษโดยสตีเฟนแห่งบลัวพระราชนัดดาของพระองค์ซึ่งส่งผลให้เกิดสงครามกลางเมืองที่เรียกว่าดิแอนะคี

อ่านเพิ่มเติม...