ใครออกเดทกับ โจน ไบซ์?

  • บ็อบ ดิลลัน วันที่ โจน ไบซ์ จาก ? ถึง ?. ช่องว่างอายุ 0 ปี 4 เดือน 15 วัน.

โจน ไบซ์

โจน ไบซ์

โจน แชนดอส ไบซ์ (อังกฤษ: Joan Chandos Baez) หรือ โจน ไบซ์ (Joan Baez, เกิดวันที่ 9 มกราคม ค.ศ. 1941) เป็นนักร้อง นักแต่งเพลง นักดนตรีแนวเพลงโฟล์ก และนักกิจกรรมทางสังคม เป็นที่รู้จักจากการแต่งเพลงที่มักเกี่ยวข้องกับเนื้อหาของความยุติธรรมทางสังคมและการต่อต้าน ไบซ์ได้อยู่ในวงการดนตรีมามากกว่า 55 ปี ออกอัลบั้มมาแล้วกว่า 30 อัลบั้ม เธอร้องเพลงภาษาสเปนและภาษาอังกฤษได้อย่างคล่องแคล่ว นอกจากนี้ยังไบซ์ยังร้องเพลงเป็นภาษาอื่น ๆ ได้อีกกว่า 6 ภาษา ทำให้ถือเป็นศิลปินโฟล์กคนสำคัญคนหนึ่งในยุคนั้น จนต่อมาเธอจะได้เปลี่ยนแนวดนตรีตามกระแสนิยมไปในช่วงปลายคริสต์ทศวรรษ 1960 ที่ได้แปรสภาพจากโฟล์กร็อกและป็อปสู่คันทรีและกอสเปล ไบซ์มักแต่งและร้องเพลงด้วยตัวเอง และยังได้ร่วมงานดนตรีกับศิลปินอื่น ๆ ด้วย ไม่ว่าจะเป็นออลแมนบราเดอส์แบนด์, เดอะบีเทิลส์, แจ็กสัน บราวน์, ลีโอนาร์ด โคเฮน, วูดดี กัทรี, ไวโอเลตา พาร์รา, เดอะโรลลิงสโตนส์, พีท ซีเกอร์, พอล ไซมอน, สตีวี วันเดอร์ และอื่น ๆ อีกมาก นอกจากนี้ยังได้ร่วมงานกับศิลปินสมัยใหม่ทั้งไรอัน แอดัมส์, โจช ริตเทอร์, สตีฟ เอิร์ล และนาตาลี เมอร์แชนต์

ไบซ์ได้เริ่มบันทึกเสียงครั้งแรกตั้งแต่ปี ค.ศ. 1960 และประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว โดยอัลบั้มทั้ง 3 ของเธอ คือ Joan Baez, Joan Baez, Vol. 2, และ Joan Baez in Concert ต่างได้รับการยืนยันยอดจำหน่ายระดับแผ่นเสียงทองคำและได้ขึ้นชาร์ตบิลบอร์ดและชาร์ตอัลบั้มอื่น ๆ กว่า 2 ปี

ไบซ์มีผลงานดนตรีที่เป็นที่รู้จักกันดีไม่ว่าจะเป็น "Diamonds & Rust" และเพลงที่นำมาร้องใหม่ "There but for Fortune" ของฟิล ออชส์ และ "The Night They Drove Old Dixie Down" ของวงเดอะแบนด์ และเพลงที่ไบซ์ได้ร่วมบันทึกเสียงกับศิลปินอื่น ๆ เช่น "Farewell, Angelina", "Love Is Just a Four-Letter Word", "Joe Hill", "Sweet Sir Galahad" และ "We Shall Overcome" เธอยังถือเป็นศิลปินคนแรก ๆ ที่ได้ร่วมงานกับบ็อบ ดิลลัน ในช่วงต้นคริสต์ทศวรรษ 1960 ผลงานทางดนตรีของเธอได้กลายเป็นที่นิยมและมีอิทธิพลเป็นวงกว้างต่อวงการโฟล์กคนหนึ่ง จนเธอได้รับการยกย่องให้เป็น "ราชินีแห่งเพลงโฟล์ก" อีกด้วย

ในด้านชีวิตส่วนตัว ไบซ์มีความสัมพันธ์กับบ็อบ ดิลลัน "ราชาแห่งเพลงโฟล์ก" เดวิด แฮร์ริส นักเขียน และรวมไปถึงสตีฟ จอบส์ ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทแอปเปิล แต่ถึงอย่างไรก็ดี ไบซ์ไม่เคยแต่งงานและมีลูก

อ่านเพิ่มเติม...
 

บ็อบ ดิลลัน

บ็อบ ดิลลัน

บ็อบ ดิลลัน (อังกฤษ: Bob Dylan) หรือชื่อจริง โรเบิร์ต อัลเลน ซิมเมอร์แมน (อังกฤษ: Robert Allen Zimmerman; เกิด 24 พฤษภาคม ค.ศ. 1941) เป็นนักร้อง นักแต่งเพลง ศิลปิน จิตรกร นักประพันธ์ และกวีชาวอเมริกัน ที่มีผลงานในวงการดนตรีมาตลอดกว่า 5 ทศวรรษ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงทศวรรษ 1960 จนได้รับฉายาให้เป็น "ราชาแห่งโฟล์ก" ด้วยภาพลักษณ์ของดิลลันในการแต่งเพลงที่เน้นเนื้อหาทางสังคมและการต่อต้านสงคราม มีเพลงตัวอย่างเช่น "Blowin' in the Wind" และ "The Times They Are a-Changin'" ที่ได้กลายมาเป็นหนึ่งในเพลงสัญลักษณ์ของการเคลื่อนไหวทางสิทธิมนุษยชนและการต่อต้านสงครามในสหรัฐอเมริกา นอกจากนี้เขายังได้ออกซิงเกิล "Like a Rolling Stone" ซึ่งได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในปี ค.ศ. 1965 และได้รับการจัดอันดับจากโรลลิงสโตนให้เป็นเพลงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล และได้รับความนิยมอย่างยิ่งในช่วงกลางยุค 1960 ที่มีโอกาสได้ขึ้นชาร์ตสูงๆ แต่ถึงอย่างก็ดีดิลลัน ก็ถูกวิจารณ์จากศิลปินโฟล์กด้วยกัน ที่เขาได้หันกลับร่วมบรรเลงกับวงกีตาร์ไฟฟ้า ซึ่งนับเป็นการทิ้งแนวเพลงโฟล์ก ที่เขาได้รับการยกย่องให้เป็นผู้นำ "ยุคบุกเบิกดนตรีโฟล์กอเมริกัน" (American folk music revival)

เนื้อเพลงของดิลลันยุคแรก จะเกี่ยวกับการเมือง สังคม ปรัชญา และอิทธิพลจากวรรณคดี ดนตรีของเขาได้ต่อต้านกระแสนิยมทางดนตรีป็อปและนำโฟล์กเข้ามามีบทบาทในกระแสสังคม เขาได้รับแรงบันดาลใจด้านการแสดงมาจาก ลิตเทิล ริชาร์ด และการประพันธ์เพลงแบบ วูดดี กัทรี, โรเบิร์ต จอห์นสัน และแฮงก์ วิลเลียมส์ ตลอดชีวิตด้านงานดนตรีของเขา ดิลลันได้ขยายสาแหรกแนวย่อยดนตรีเป็นจำนวนมาก ได้เป็นผู้บุกเบิกวงการเพลงโฟล์กในอเมริกันสู่โฟล์กในอังกฤษ สกอตแลนด์และไอร์แลนด์ และผลักดันดนตรีโฟล์กให้กลับมาได้รับความนิยม รวมไปถึงบลูส์, คันทรี, กอสเปล, ร็อกอะบิลลี และแจ๊ส ดิลลัน เป็นที่รู้จักจากศิลปินที่ทั้งแต่งและร้องเอง จนได้รับการยกย่องให้เป็นนักแต่งเพลงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคนหนึ่ง และภาพลักษณ์การแสดงสดที่เล่นกีตาร์ พร้อมกับเปล่าฮาร์โมนิกา รวมไปถึงคีย์บอร์ด เขาได้จัดทัวร์คอนเสิร์ตอย่างต่อเนื่องในช่วงปลายยุค 1980 จนได้รับการยกย่องให้เป็นทัวร์ "Never Ending Tour"

นับตั้งแต่ปี ค.ศ. 1994 ดิลลันได้ออกผลงานวาดรูปและลงสีมาแล้วกว่า 6 เล่ม และได้รับการจัดแสดงในเวทีใหญ่หลายครั้ง ในด้านงานดนตรี ดิลลันได้จำหน่ายอัลบั้มไปแล้วกว่า 100 ล้านชุด ทำให้เขาเป็นหนึ่งในศิลปินที่มียอดจำหน่ายอัลบั้มโดยรวมสูงที่สุดตลอดกาล เขายังได้รับรางวัลมากมาย ไม่ว่าจะเป็น 11 รางวัลแกรมมี รางวัลลูกโลกทองคำ และรางวัลออสการ์ ดิลลันได้รับการบรรจุเข้าสู่หอเกียรติยศร็อกแอนด์โรล, หอเกียรติยศมินนิโซตามิวสิก, หอเกียรติยศนักประพันธ์เพลงแนชวิลล์ และ หอเกียรติยศนักประพันธ์เพลง ในปี ค.ศ. 2008 เขาก็ได้รับรางวัลจากพูลิตเซอร์ ในโอกาศพิเศษสำหรับ "ที่เขาสร้างไว้ต่อวงการดนตรีนิยมและวัฒนธรรมอเมริกัน ด้วยเนื้อเพลงและบทประพันธ์ที่เรียบเรียงอย่างทรงพลัง" ในเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 2012 ดิลลันได้รับเกียรติรับเหรียญอิสรภาพประธานาธิบดี ซึ่งถือเป็นเหรียญสูงสุดของพลเรือน จากประธานาธิบดีสหรัฐ บารัค โอบามา

ในปี ค.ศ. 2016 ดิลลันได้รับรางวัลโนเบลสาขาวรรณกรรม

อ่านเพิ่มเติม...