ใครออกเดทกับ จูเลียส ซีซาร์?
Postumia วันที่ จูเลียส ซีซาร์ จาก ? ถึง ?.
Postumia วันที่ จูเลียส ซีซาร์ จาก ? ถึง ?.
Mamurra วันที่ จูเลียส ซีซาร์ จาก ? ถึง ?.
Mucia Tertia วันที่ จูเลียส ซีซาร์ จาก ? ถึง ?.
Lollia วันที่ จูเลียส ซีซาร์ จาก ? ถึง ?.
Servilia วันที่ จูเลียส ซีซาร์ จาก ? ถึง ?.
Cossutia วันที่ จูเลียส ซีซาร์ จาก ? ถึง ?.
Sempronia วันที่ จูเลียส ซีซาร์ จาก ? ถึง ?.
Eunoë วันที่ จูเลียส ซีซาร์ จาก ? ถึง ?.
Clodia วันที่ จูเลียส ซีซาร์ จาก ? ถึง ?.
Tertulla วันที่ จูเลียส ซีซาร์ จาก ? ถึง ?.
Nysa วันที่ จูเลียส ซีซาร์ จาก ? ถึง ?.
คลีโอพัตรา วันที่ จูเลียส ซีซาร์ จาก ถึง . ช่องว่างอายุ 30 ปี 6 เดือน 10 วัน.
จูเลียส ซีซาร์
กาอิอุส ยูลิอุส ไกซาร์ (ละติน: Gaius Julius Caesar [ˈɡaːiʊs ˈjuːliʊs ˈkae̯sar]) หรือ จูเลียส ซีซาร์ (อังกฤษ: Julius Caesar; 12 กรกฎาคม 100 ปีก่อน ค.ศ. – 15 มีนาคม 44 ปีก่อน ค.ศ.) เป็นรัฐบุรุษและนายพลชาวโรมัน เขามีบทบาทสำคัญในเหตุการณ์อันนำไปสู่การสิ้นสุดสาธารณรัฐโรมันและความเจริญของจักรวรรดิโรมัน ใน 60 ปีก่อน ค.ศ. ซีซาร์, กรัสซุส และปอมปีย์ ตั้งพันธมิตรทางการเมืองซึ่งจะครอบงำการเมืองโรมันไปอีกหลายปี ความพยายามของพวกเขาในการสั่งสมอำนาจผ่านยุทธวิธีประชานิยมถูกชนชั้นปกครองอนุรักษนิยมในวุฒิสภาโรมันคัดค้าน ซึ่งในบรรดานั้นมีกาโตผู้เยาว์ (Cato the Younger) ด้วยการสนับสนุนบ่อยครั้งของกิแกโร ชัยชนะของซีซาร์ในสงครามกอล ซึ่งสมบูรณ์ใน 51 ปีก่อน ค.ศ. ขยายดินแดนของโรมันไปถึงช่องแคบอังกฤษและแม่น้ำไรน์ ซีซาร์เป็นแม่ทัพโรมันคนแรกที่ข้ามทั้งสองเมื่อเขาสร้างสะพานข้ามแม่น้ำไรน์และบุกครองบริเตนครั้งแรก
ความสำเร็จเหล่านี้ทำให้เขามีอำนาจทางทหารซึ่งไม่มีผู้ใดเทียม และคุกคามฐานะของพอมพีย์ซึ่งเปลี่ยนไปเข้ากับวุฒิสภาหลังกรัสซุสเสียชีวิตใน 53 ปีก่อน ค.ศ. เมื่อสงครามกอลยุติ วุฒิสภาสั่งซีซาร์ให้ลงจากตำแหน่งบังคับบัญชาทหารของเขาและกลับกรุงโรม ซีซาร์ปฏิเสธคำสั่งนั้นและใน 49 ปีก่อน ค.ศ. ท้าทายโดยการข้ามแม่น้ำรุบิโกพร้อมด้วยทหารหนึ่งลีเจียน ทิ้งมณฑลของเขาและเข้าอิตาลีภายใต้อาวุธอย่างมิชอบด้วยกฎหมาย เกิดสงครามกลางเมืองตามมา และชัยชนะของซีซาร์ในสงครามทำให้เขามีฐานะอำนาจและอิทธิพลโดยไร้คู่แข่ง
หลังเข้าควบคุมรัฐบาล ซีซาร์เริ่มโครงการปฏิรูปสังคมและรัฐบาล รวมทั้งการสถาปนาปฏิทินจูเลียส เขารวมระบบข้าราชการประจำของสาธารณรัฐเข้าสู่ศูนย์กลางและสุดท้ายประกาศตนเป็น "ผู้เผด็จการตลอดชีพ" ทำให้เขายิ่งมีอำนาจมากขึ้นไปอีก แต่ความขัดแย้งทางการเมืองใต้น้ำยังไม่สงบ และในไอดส์มีนาคม (Ides of March) คือ 15 มีนาคม 44 ปีก่อน ค.ศ. ซีซาร์ถูกกลุ่มสมาชิกวุฒิสภากบฏลอบสังหาร นำโดยมาร์กุส ยูนิอุส บรูตุสผู้ลูก ผู้ซึ่งเป็นคนสนิทและเป็นเสมือนลูกศิษย์ โดยพูดเป็นประโยคสุดท้ายเป็นภาษาละตินว่า "Et tu Brute" (เจ้าด้วยหรือ บรูตุส) สงครามกลางเมืองชุดใหม่อุบัติ และรัฐบาลสาธารณรัฐอันมีรัฐธรรมนูญไม่เคยถูกฟื้นฟูอย่างสมบูรณ์ อ็อกตาวิอุส ทายาทบุญธรรมของซีซาร์ ซึ่งภายหลังรู้จักกันในพระนาม จักรพรรดิเอากุสตุส เถลิงอำนาจแต่ผู้เดียวหลังพิชิตศัตรูในสงครามกลางเมืองนั้น อ็อกตาวิอุสรวบรวมอำนาจและเริ่มสมัยจักรวรรดิโรมัน
คนรู้จักชีวิตส่วนมากของซีซาร์จากบันทึกการทัพของเขาเองและจากแหล่งข้อมูลร่วมสมัยอื่น ส่วนใหญ่เป็นจดหมายและสุนทรพจน์ของกิแกโรและงานเขียนประวัติศาสตร์ของแซลลัสต์ (Sallust) เป็นหลัก ชีวประวัติซีซาร์ในภายหลังโดยซุเอโตนิอุสและพลูทาร์กก็เป็นแหล่งข้อมูลหลักเช่นกัน นักประวัติศาสตร์หลายคนถือซีซาร์เป็นผู้บัญชาการทหารที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์คนหนึ่ง
อ่านเพิ่มเติม...Postumia
จูเลียส ซีซาร์
Postumia
Postumia was an ancient Roman woman of the late Roman Republic, she was the wife of Roman lawyer Servius Sulpicius Rufus and a mistress of Julius Caesar.
อ่านเพิ่มเติม...จูเลียส ซีซาร์
Mamurra
Mamurra (fl. 1st century BC) was a Roman military officer who served under Julius Caesar.
อ่านเพิ่มเติม...จูเลียส ซีซาร์
Mucia Tertia
Mucia Tertia (fl. 79 – 31 BC) was a Roman matrona who lived in the 1st century BC. She was the daughter of Quintus Mucius Scaevola, the pontifex maximus and consul in 95 BC.
Around 79 BC, Mucia married Pompey, a leading and soon-to-be dominant figure in Roman politics. She was the mother of all three of Pompey's known children. Pompey divorced her in 61 BC, either for adultery or for political reasons. She subsequently married Marcus Aemilius Scaurus and remained active in Roman politics, leading peace talks between her son Sextus Pompey and Octavian in 39 BC and maintaining a relationship of mutual respect with Octavian in the years that followed.
อ่านเพิ่มเติม...จูเลียส ซีซาร์
Lollia
Lollia was an Ancient Roman noblewoman. She was the wife of Roman general Aulus Gabinius. She was also a mistress of Julius Caesar.
อ่านเพิ่มเติม...จูเลียส ซีซาร์
Servilia
Servilia (c. 100 BC – after 42 BC) was a Roman matron from a distinguished family, the Servilii Caepiones. She was the daughter of Quintus Servilius Caepio and Livia, thus the maternal half-sister of Cato the Younger. She married Marcus Junius Brutus, with whom she had a son, the Brutus who, along with others in the Senate, assassinated Julius Caesar. After her first husband's death in 77 BC, she married Decimus Junius Silanus, and with him had a son and three daughters.
She gained fame as the mistress of Julius Caesar, whom her son Brutus and son-in-law Gaius Cassius Longinus would assassinate in 44 BC. Her affair with Caesar seems to have been publicly known in Rome at the time. Plutarch stated that she in turn was madly in love with Caesar. The relationship between the two probably started in 59 BC, after the death of Servilia's second husband although Plutarch implied it began when they were teenagers.
อ่านเพิ่มเติม...จูเลียส ซีซาร์
Cossutia
Cossutia was a Roman woman who became engaged to Julius Caesar prior to his reaching adulthood. There has been debate among historians on whether the marriage actually occurred.
อ่านเพิ่มเติม...จูเลียส ซีซาร์
Sempronia
Sempronia war eine römische Aristokratin der späten Republik. Sie war die Frau des Decimus Iunius Brutus, Konsul des Jahres 77 v. Chr., und nach Sallust aktive Teilnehmerin – zumindest Mitwisserin – an der catilinarischen Verschwörung.
อ่านเพิ่มเติม...จูเลียส ซีซาร์
Eunoë
Eunoë Maura was the wife of Bogudes, King of Western Mauretania. Her name has also been spelled Euries or Euryes or Eunoa.
อ่านเพิ่มเติม...จูเลียส ซีซาร์
Clodia
Clodia (born Claudia, c. 95 or 94 BC), nicknamed Quadrantaria ("Quarter", from quadrantarius, the price of a visit to the public baths), Nola ("The Unwilling", from the verb nolo, in sarcastic reference to her alleged wantonness), Medea Palatina ("Medea of the Palatine") by Cicero (see below), and occasionally referred to in scholarship as Clodia Metelli ("Metellus's Clodia"), was one of three known daughters of the ancient Roman patrician Appius Claudius Pulcher.
Like many other women of the Roman elite, Clodia was very well-educated in Greek and philosophy, with a special talent for writing poetry. Her life, which was characterized by perpetual scandal, is immortalized in the writings of Marcus Tullius Cicero and, it is generally believed, in the poems of Gaius Valerius Catullus.
อ่านเพิ่มเติม...จูเลียส ซีซาร์
Tertulla
Tertulla was the wife of Marcus Licinius Crassus, "the richest man in Rome", and the mother of his two sons.
อ่านเพิ่มเติม...จูเลียส ซีซาร์
Nysa
Ниса (др.-греч. Νύσα) — дочь царя Вифинии Никомеда IV (по другим, видимо, устаревшим сведениям — Никомеда III), жившая в I веке до н. э.
อ่านเพิ่มเติม...จูเลียส ซีซาร์
คลีโอพัตรา
คลีโอพัตราที่ 7 ฟิโลพาเธอร์ (กรีกคอยนี: Κλεοπάτρα Φιλοπάτωρ, อักษรโรมัน: Kleopátra Filopátor; หรือรู้จักทั่วไปในนาม คลีโอพัตรา; มกราคม ปีที่ 69 ก่อนคริสตกาล – 10 สิงหาคม ปีที่ 30 ก่อนคริสตกาล) เป็นพระราชินีแห่งอียิปต์โบราณและเชื้อพระวงศ์พระองค์สุดท้ายของราชวงศ์ทอเลมีแห่งมาซิโดเนีย ดังนั้นจึงเป็นผู้ปกครองอียิปต์ที่มีเชื้อสายกรีกคนสุดท้าย พระราชบิดาของพระองค์คือทอเลมีที่ 12 ออเลติส และคาดว่าพระราชมารดาเป็นพระเชษฐภคินีของโอเลเตส ทรงพระนามว่า คลีโอพัตราที่ 5 ทรีฟาเอนา ชื่อ "คลีโอพัตรา" เป็นภาษากรีก แปลว่า "ความเจริญรุ่งเรืองของบิดา" พระนามเต็มของพระนางคือ "คลีโอพัตรา เธอา ฟิโลปาตอร์" ซึ่งหมายถึง "เทพีคลีโอพัตรา ผู้เป็นที่รักของบิดา" พระนางทรงพระปรีชาสามารถมาก ทรงแตกฉานถึง 14 ภาษา เช่น ฮิบรู, ละติน, มาเซดอนโบราณ, เอธิโอเปียน, ซีเรีย, เปอร์เซีย, และ อียิปต์ ซึ่งแม้แต่ในราชวงศ์ น้อยคนนักที่จะแตกฉานภาษานี้
ปัจจุบัน คลีโอพัตราที่ 7 ฟิโลพาเธอร์ นับว่าเป็นผู้ปกครองอียิปต์โบราณที่มีชื่อเสียงมากที่สุด นิยมเรียกพระนามสั้น ๆ ว่า คลีโอพัตรา ซึ่งทำให้ราชินีองค์ก่อน ๆ ที่ทรงพระนามคล้ายคลึงกัน ลบเลือนไปสิ้น ในความเป็นจริง พระนางไม่เคยปกครองอียิปต์เพียงลำพัง แต่ครองราชย์ร่วมกับพระราชบิดา, พระราชอนุชา, พระราชสวามีผู้เป็นพระอนุชาของพระองค์ หรือไม่ก็พระราชโอรส การครองราชย์ร่วมกันดังกล่าวมีผู้ร่วมบัลลังก์เป็นเพียงกษัตริย์ตามพระยศเท่านั้น อำนาจแท้จริงอยู่ในมือของคลีโอพัตราเองทั้งสิ้น
อ่านเพิ่มเติม...